กองทุนรวมและประกันแต่ละอย่างตอบโจทย์อะไร
วันนี้มาชวนคุยเรื่องเครื่องมือทางการเงินที่จำเป็นต้องใช้ในการวางแผนทางการเงิน นั่นคือ กองทุนรวมและประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพนั่นเองค่ะ ว่าแต่ กองทุนรวมและประกันแต่ละอย่างตอบโจทย์อะไร วันนี้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
กองทุนรวมและประกันแต่ละอย่างตอบโจทย์อะไร
กองทุนรวม
กองทุนรวมตอบโจทย์เรื่อง “ทำให้เงินงอกเงย”
เมื่อซื้อหน่วยลงทุน และ NAV ของกองทุนที่เราซื้อมีมูลค่าสูงขึ้น มูลค่าเงินของเราก็มากขึ้น เมื่อขายออกมาก็จะได้ผลตอบแทนเป็นส่วนต่างกำไร (Capital Gain) หรือเมื่อถือไปเรื่อยๆ บางกองก็จะจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินปันผล (Dividend) ออกมาอย่างสม่ำเสมอ
สาเหตุที่กองทุนรวมเป็นที่นิยมเป็นเพราะว่า กองทุนรวมสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง ถึงแม้ว่าจะไม่สูงเท่ากับการลงทุนในหุ้นด้วยตัวเอง แต่กองทุนรวมก็มีกลไกในการปกป้องผู้ลงทุนซึ่งตลาดหุ้นไม่มี เช่น การมีผู้จัดการกองทุนคอยติดตามตลาดและลงทุนให้ การมีมาตรฐานว่ากองทุนต้องบริหารให้ชนะ benchmark ในตลาดนั้นๆ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องตลาดสูงมาก ก็สามารถลงทุนเพื่อสร้างเงินให้งอกเงยได้
ประกัน
ประกันตอบโจทย์เรื่อง “คุ้มครองเงินให้ปลอดภัย”
จุดนี้อาจจะมีคนสงสัยว่า ประกันทำขึ้นมาเพื่อคุ้มครองชีวิต คุ้มครองสุขภาพ เกี่ยวอย่างไรกับการคุ้มครองเงิน ขอยกตัวอย่างกรณีสมมุติว่า ถ้าเราทำงานเก็บเงินมาเรื่อยๆ เก็บเงินมาได้ก้อนหนึ่ง อยู่ดีๆ เกิดป่วยขึ้นมาและต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก จึงต้องนำเงินที่เก็บออมมาจ่ายไปก่อน สุดท้ายต้องกลับไปเริ่มเก็บเงินใหม่ตั้งแต่ต้น กรณีนี้แสดงว่าเงินของเรายังไม่ถูก “คุ้มครอง” ยังมีโอกาสที่เราจะสูญเสียเงินที่พยายามเก็บออมมาไปกับเหตุการณ์สุดวิสัยเหล่านี้อยู่
หลักการของประกันเริ่มแรก คือ การจ่ายเงินที่เรียกว่า “เบี้ยประกัน” เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์บางอย่าง เช่น การได้รับเงินชดเชยเมื่อเสียชีวิต หรือสิทธิ์การช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลตามเงื่อนไขการเจ็บป่วย เป็นต้น ประกันบางประเภทการจ่ายเบี้ยประกันจะเป็นการจ่ายทิ้งไปเลย เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ส่วนประกันบางประเภทเราจะได้รับเบี้ยประกันคืนเมื่อครบกำหนด เช่น ประกันชีวิตตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ รวมถึง Unit Link ที่เป็นประกันชีวิตควบการลงทุนด้วย
สำหรับประกันประเภทจ่ายทิ้ง สิ่งที่เราต้องแลกในการคุ้มครองเงินของเราให้ปลอดภัย คือ ค่าเบี้ยประกันที่เราต้องเสียทุกปี ส่วนประกันที่คืนเบี้ยประกันเมื่อครบเงื่อนไข สิ่งที่ต้องแลก คือ สภาพคล่องของเงินที่ต้องแช่อยู่ในนั้น
เหตุผลที่ประกันและการลงทุนต้องอยู่คู่กัน
โมเดลด้านการวางแผนการเงิน มีอยู่โมเดลหนึ่งที่เข้าใจง่ายและใช้งานได้ดี คือ “พิระมิดทางการเงิน”
โมเดลนี้อธิบายว่า การวางแผนทางการเงินต้องเริ่มบริหารจากฐานด้านล่างปิรามิด แล้วค่อยขึ้นไปสู่ยอดปิรามิด ถ้าแต่ละขั้นยังไม่แข็งแรง ก็ยังไม่ควรข้ามไปสู่ขั้นต่อไป
จากโมเดลนี้จะสังเกตว่า ขั้นตอน Protection นั้นมาก่อนขั้นตอน Investment ซึ่งการ Protection หรือ การป้องกันความเสี่ยง ส่วนนี้หมายถึงการทำประกันนั่นเอง สาเหตุที่เวลาวางแผนการเงินควรคิดเรื่องประกันก่อนเรื่องลงทุนเป็นเพราะว่า ถ้าหากเรายังไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงหรือคุ้มครองเงินของเราไว้ก่อน เมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดแล้วเราจำเป็นต้องใช้เงิน ทุกอย่างที่ทำมาทั้งหมดก็จะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ เริ่มเก็บออมหรือเริ่มลงทุนใหม่ ดังนั้นขั้นตอนของ Protection ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนหลงลืม ควรทำควบคู่ไปกับการลงทุน
สำหรับประโยชน์ในส่วนของ Investment หรือการลงทุน ทำไปเพื่อให้เงินงอกเงยและทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้ไวขึ้น ปัจจุบันการลงทุนในกองทุนรวมเป็นที่นิยมขึ้นมาก เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการเงินมากขึ้น บวกกับดอกเบี้ยเงินฝากที่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้เราต้องหาช่องทางที่ทำให้เงินงอกเงยช่องทางอื่น บทสรุปก็เลยมาลงที่กองทุนรวม และตามมาด้วยกระแสของอาชีพยุคใหม่ คือ Financial Advisor (ที่ปรึกษาทางการเงิน) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการช่วยวางแผนการเงินให้ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าไปถึงเป้าหมายที่ตนเองต้องการ
ติดต่อ สอบถาม รับคำปรึกษา
Line @greatlifeadviser หรือคลิก https://lin.ee/Lq9D46f
Web www.greatlifeadvisor.com